Slide3

ปิ่นโตไทย ลดโลกร้อน

หิ้วปิ่นโตใส่อาหารไปกินบ้างเถอะ !?! 
หากจุดเริ่มเล็กๆ สามารถทำให้คนได้ตระหนักโดยย้อนกลับไปมองภาพการใช้ชีวิตแบบไทยๆ ครั้งอดีต เมื่อสัก 30-40 ปีก่อน ในยุคนั้นไม่เคยได้ยินคำว่า “ภาวะโลกร้อน” 

... ครู นักเรียน คนทำงานส่วนมากห่ออาหารใส่ปิ่นโตไปกินมื้อกลางวันกันที่โรงเรียน ที่ทำงาน
... ตลาดสดใช้ใบตองหีบห่ออาหารให้กับลูกค้าที่มักจะเตรียมตะกร้าไปจ่ายตลาด
... ร้านขายอาหาร ขายโดยใส่ภาชนะอย่างปิ่นโต หรือ กล่องใส่ข้าว กับข้าว ไม่ได้ใช้ถุงพลาสติกกันมากมายเหมือนทุกวันนี้

ภาวะโลกที่เปลี่ยนแปลง ต้องเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ร้ายแรงต่อมนุษย์มากขึ้นในวันนี้ มีที่มาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เรียกว่า “โลกร้อน” สาเหตุที่สำคัญก็เกิดจากน้ำมือของมนุษย์เอง เพราะมุ่งแต่เสริมสร้างความสะดวกสบายใส่ตัวจนลืมว่าได้ทำลาย ทำร้ายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากเกินไป 

การใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบัน แค่มีเงินพกติดตัว ก็ไม่จำเป็นต้องเตรียมตะกร้าไปจ่ายตลาดเหมือนก่อน แถมเลือกได้อีกอยากจะไปห้าง ศูนย์การค้า ตลาดสด ตลาดนัด คนขายเขาก็หยิบของใส่ถุงหิ้วให้เรา 

ถ้าใครลองซื้อของจาก 10 ร้านค้า ก็จะได้ถุงหิ้ว 10 ถุงเป็นอย่างน้อย หากไม่ทักท้วงเสียก่อนว่า “ใส่รวมกันก็ได้” 

อย่างอาหารการกินที่ใส่ในบรรจุภัณฑ์คงกระพัน (ถุงพลาสติก) แต่กลับมีอายุสั้นมาก คือทิ้งทันทีหลังการใช้งานเพียงครั้งเดียว ทั้งที่ความเป็นจริง โฟม กระป๋อง ถุงพลาสติก ขวดพลาสติก ฯลฯ มีอายุยืนยาวนับ 100 ปีกว่าจะย่อยสลาย อย่างไรก็ตาม ความเคยชินที่ตอบรับความสะดวกสบายที่มากเกินยังทำให้หลายคนมองว่า บรรจุภัณฑ์พอเป็นขยะก็ถูกเก็บนำไปแยก และส่วนหนึ่งถูกแปรรูปเป็นของรีไซเคิล ทั้งๆ ที่ต้นทางของผู้บริโภคสามารถใช้ซ้ำ หรือใช้อย่างคุ้มค่าก่อนทิ้งให้เป็นขยะกองโต

การ ใช้กล่องข้าว หรือปิ่นโตใส่อาหารแทน นอกจากเป็นการลดใช้บรรจุภัณฑ์คงกระพันที่ทำร้ายโลก ยังเป็นความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภค ในเรื่องนี้ นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อดีตอธิบดีกรมอนามัย เคยบอกว่า ถุงพลาสติกโดยเฉพาะคนที่นิยมซื้ออาหารนอกบ้าน มักใช้ถุงพลาสติกบรรจุอาหารทั้งร้อนและเย็น แต่คนส่วนใหญ่อาจไม่ทราบถึงคุณสมบัติของถุงร้อนและถุงเย็นเท่าที่ควร จึงมักมีการนำมาใช้อย่างไม่ถูกต้อง ทำให้อาหารนั้นไม่ปลอดภัยต่อการบริโภคเพราะมีการปนเปื้อนของสารที่เป็นอันตรายจากพลาสติกสู่อาหาร ซึ่งจะค่อยๆ สะสมในร่างกายทีละน้อย ๆ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งได้ 

“การใช้พลาสติกบรรจุอาหาร ควรนำมาใช้ให้ถูกต้อง ถุงร้อนควรใช้บรรจุของร้อนและอาหารที่มีไขมัน ส่วนถุงเย็นใช้บรรจุของทั่วไปหรืออาหารแช่แข็ง แต่เนื่องจากมีการผลิตถุงพลาสติกบรรจุอาหารที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็ทำให้มีสารเจือปนในพลาสติกซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพเมื่อละลายออกมาปนเปื้อนในอาหาร ถึงแม้จะไม่เกิดพิษโดยทันทีแต่สารจะสะสมสารพิษในร่างกายและก่อให้เกิดพิษแบบเรื้อรัง”


ในต่างประเทศ ที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา โครงการปิ่นโต-The Tiffin Project เมื่อปีที่แล้ว เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่พยายามจะกระตุ้นให้ชุมชนลดการใช้บรรจุภัณฑ์ใส่อาหาร ขณะเดียวกันก็สนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น ฮันเตอร์ โมเยส (Hunter Moyes) เชฟของโรงแรมวอลดอร์ฟ โมเยส เป็นผู้ริเริ่มโดยชักชวนร้านอาหารหลายแห่งเป็นแนวร่วม พร้อมเชิญชวนลูกค้าที่ซื้ออาหารกลับบ้านเป็นประจำช่วยกันลดขยะด้วยการสั่งซื้อภาชนะโลหะที่สลักข้อความ The Tiffin Project ไว้บนฝาผ่านทาง www.thetiffinproject.com ในราคา 26 ดอลลาร์แคนาดา และหัก 4 ดอลลาร์เข้ากองทุนเพื่อใช้หมุนเวียนในระบบการผลิตของเกษตรกรท้องถิ่น ทำให้เกษตรกรอยู่ได้ ร้านอาหารก็ได้วัตถุดิบสดใหม่ คุณภาพดี ส่วนลูกค้าที่หิ้วปิ่นโตมาซื้ออาหาร ก็จะได้ส่วนลดพิเศษ ซึ่งได้มีการประเมินว่าลูกค้า 1,000 คนที่ซื้ออาหารแบบกลับบ้านโดยใช้ปิ่นโตทดแทน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ สามารถลดการทิ้งบรรจุภัณฑ์ได้ถึง 104,000 กล่อง ซึ่งต่อมามีร้านค้าอื่นนำแนวคิดนี้ไปใช้ เพราะช่วยลดต้นทุนค่าบรรจุภัณฑ์ได้ เช่นร้านกาแฟที่ให้ส่วนลดกับลูกค้านำแก้วมาใส่เครื่องดื่มเอง 

ที่ผ่านมา ห้าง ซูเปอร์สโตร์หลายแห่งเคยรณรงค์ให้ผู้ซื้อร่วมงด ลดใช้ถุงพลาสติกบรรจุสินค้า เช่น เทสโก้โลตัส บิ๊กซี เซเว่นอีเลฟเว่น เซ็นทรัล เป็นต้น หรือบางแห่งอย่างทรูวิชั่นส์ และองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) เคยร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ผ่านโครงการหิ้วปิ่นโตแทนกล่องโฟม โดยประสานร่วมกับหลายๆ โรงเรียนเพื่อปลูกฝังเด็กได้ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม ถือว่าเป็นโครงการที่ดีมาก และหากว่าทุกคนตระหนัก การลดถือถุงหิ้ว คือ ลดการถือขยะ แล้วเปลี่ยนมาใช้ภาชนะใช้ซ้ำได้ อย่างปิ่นโต ก็ย่อมจะมองเห็นวิถีชีวิตข้างหน้าที่ช่วยลดโลกร้อนได้

แม้ในช่วงเริ่มต้นยังยากที่จะไปฝืนความเคยชินสบายของผู้บริโภค แต่ถ้ามีการรณรงค์ต่อเนื่องและจริงจัง สิ่งประดิษฐ์พิชิตโลกร้อนอย่าง “ปิ่นโต” ก็จะย้อนเห็นภาพที่คุ้นเคยกับชีวิตคนไทยกลับมาอีก ซึ่งไม่ได้ยากจนไม่สามารถเปลี่ยนไปใช้ชีวิตไทยๆ แบบเดิมกันบ้าง ซึ่งดีต่อทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อมของโลก

 556000008363603 556000008363604

 

ที่มา : เผยแพร่: 1 ก.ค. 2556 12:15   โดย: MGR Online

https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9560000079699